อบต.หนองสนิทหยิบต้นทุนทรัพยากรธรรมชาติของชุมชนมาช่วยสานต่อการยกระดับแรงงานสู่ผู้ประกอบการเกษตรอินทรีย์ครบวงจร

สุรินทร์ เกษตรกรรม

ปัจจุบันความมั่นคงทางอาหารถือเป็นสิ่งสำคัญเพราะเป็นการยืนยันว่าคนในสังคมจะได้รับอาหารที่ปลอดภัย ทั่วถึงและมีคุณค่าทางโภชนาการ ยิ่งไปกว่านั้น ความมั่นคงทางอาหารยังส่งผลต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมอีกด้วย ดังเช่นสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งตอกย้ำให้เห็นคุณค่าของการมีแหล่งอาหารปลอดภัยไว้ในพื้นที่มากขึ้น 

องค์การบริหารส่วนตำบลหนองสนิท อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ จึงได้มีแนวทางส่งเสริมอาชีพเกษตรกรปลูกพืชผักอินทรีย์ เพื่อบริโภคในชุมชนเอง จัดจำหน่ายนอกชุมชน สู่การสร้างรายได้เข้าชุมชนเพิ่มมากขึ้น 

อย่างไรก็ดี หากย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้นของโครงการในปีก่อนนั้น มีที่มาจากที่องค์การบริหารส่วนตำบลฯ เล็งเห็นว่า ชุมชนตำบลหนองสนิทเป็นชุมชนที่มีศักยภาพมากพอที่จะสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ เนื่องด้วยพื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง กล่าวคือ แต่ละหมู่บ้านในตำบลมีแหล่งน้ำ ป่าไม้และแหล่งอาหารเป็นของตนเอง 

อย่างไรก็ดีในความเป็นจริงแล้ว แม้ชุมชนจะมีความอุดมสมบูรณ์แค่ไหน แต่ชาวบ้านยังคงนิยมใช้สารเคมีอยู่มาก ส่งผลเสียต่อสุขภาพของเกษตรกรและผู้บริโภคตามรายงานการตรวจสุขภาพของรพ.สต. ในพื้นที่ ยิ่งไปกว่านั้นยังเกิดปัญหาหนี้สินจากการทำการเกษตรที่ควบคุมต้นทุนไม่ได้ตาม 

ทั้งหมดนี้เองที่องค์การบริหารส่วนตำบลฯ และชาวบ้านในชุมชนหลายภาคส่วนต้องการที่จะร่วมแก้ไขไปพร้อม ๆ กัน โดยผสมผสานเข้ากับการต่อยอดจากโครงการฯ ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกสศ. ในปีที่ผ่านมา เมื่อชาวบ้านในชุมชนตำบลหนองสนิท อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ มีประสบการณ์มากขึ้น ทั้งทางด้านการประสานงานเพื่อสร้างเครือข่าย กล่าวคือ มีการจัดทำธรรมนูญคนหนองสนิทและการก่อตั้ง คณะกรรมการสหกรณ์การเกษตรพืชผักอินทรีย์หนองสนิท จำกัด  

ด้วยความมุ่งมั่นในการทำเกษตรอินทรีย์ดังกล่าว พวกเขาจึงอยากสานต่อองค์ความรู้และวางระบบการปฏิบัติงานให้เป็นมาตรฐาน ต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพ จึงเป็นที่มาของ ‘โครงการการพัฒนายกระดับเกษตรกรสู่ผู้ประกอบการเกษตรอินทรีย์ แบบครบวงจร ตำบลหนองสนิท อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์โดยมีกลุ่มเป้าหมายจากโครงการเดิมและกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้าร่วมกิจกรรม 

โดยจุดประสงค์ของโครงการฯ ในครั้งนี้คือ มุ่งเน้นการมองต้นทุนที่ชุมชนมีเพื่อใช้เป็นฐานในการพัฒนา ทำให้เกิดรายได้เข้าสู่ชุมชนและคนในชุมชนไม่ต้องออกไปเป็นแรงงานนอกพื้นที่ เพื่อยกระดับการทำเกษตรอินทรีย์ของกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็น การพัฒนากลุ่มเป้าหมายให้เป็นผู้ประกอบการเกษตรอินทรีย์ หรือการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ตำบลหนองสนิทแบบครบวงจร เป็นต้น 

สำหรับเนื้อหาของหลักสูตรทางโครงการฯ มีกิจกรรมส่งเสริมที่หลากหลาย เช่น การส่งเสริมให้กลุ่มเป้าหมายมีทักษะสามารถผลิตพืชผักอินทรีย์ได้อย่างต่อเนื่อง มีคุณภาพและได้รับการรับรองมาตราฐานออแกนิคไทยแลนด์ การส่งเสริมให้เกิดการบริหารในรูปแบบสหกรณ์ เพื่อให้ผู้ประกอบการที่มีทักษะด้านบริหารจัดการ สามารถจัดการกลุ่มและชุมชนให้เข้มแข็งได้ 

นอกจากนั้นแล้ว หากโครงการฯ ถึงช่วงเวลาที่ต้องสิ้นสุดลง ทางองค์การบริหารส่วนตำบลฯ ก็จะสนับสนุน การส่งเสริมการตลาดโมเดิร์นเทรด โดยมีการเชื่อมภาคเอกชนเข้ามาช่วยส่งเสริมการขาย และการสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่เพื่อสืบสานกิจกรรมต่อไป 

จนสามารถกล่าวได้โครงการฯ นี้ เป็นการสร้างรายได้ แหล่งอาหารมั่นคงปลอดภัยและสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชน เพื่อให้เกิดระบบการดำเนินชีวิตอย่างยั่งยืน พึ่งพาตนเองและช่วยเหลือสังคมอย่างแท้จริง 

องค์การบริหารส่วนตำบลฯ มองว่า ชุมชนตำบลหนองสนิทเป็นชุมชนที่มีศักยภาพมากพอที่จะสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ  เพราะพื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ แต่ละหมู่บ้านในตำบลมีแหล่งน้ำ ป่าไม้ และแหล่งอาหารเป็นของตนเอง

เกี่ยวกับโครงการเบื้องต้น

โครงการพัฒนายกระดับเกษตรกรสู่ผู้ประกอบการเกษตรอินทรีย์ แบบครบวงจร ตำบลหนองสนิท อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์

ชื่อหน่วยงาน

องค์การบริหารส่วนตำบลหนองสนิท อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์

จังหวัด

สุรินทร์

ปีโครงการ

2563

ติดต่อ

ผู้ประสานงาน: นายสมจิตร นามสว่าง
โทร: 0819677350

เป้าประสงค์โครงการ

1.เกิดการสร้างงานสร้างอาชีพที่ยั่งยืนในชุมชน

2.เกิดผู้ประกอบการเกษตรอินทรีย์

3.มีเกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์และมีผลผลิตเพิ่มมากขึ้น

4.เกิดการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ทรีย์แบบครบวงจร

เรื่องราวนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาระบบทดลองการพัฒนาทักษะแรงงานที่ขาดแคลนทุนทรัพย์และด้อยโอกาส โดยกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา

กว่า 74 หน่วยงาน 42 จังหวัด กับ 1 เป้าหมายเพื่อสร้างชุมชนที่มีศักยภาพ ด้วยการพัฒนาทักษะอาชีพแก่แรงงานด้อยโอกาส