เครือข่ายชาวประมงพื้นบ้าน จังหวัดสตูล พัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารทะเล ให้สอดรับกับระบบตลาดออนไลน์ แก้ปัญหาผูกขาดพ่อค้าคนกลางและโควิด-19

สตูล อื่น ๆ

ผู้คนแถบชายฝั่งจังหวัดสตูลส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง จับสัตว์น้ำขายด้วยเครื่องมือที่หลากหลาย ทั้งกุ้ง ปู ปลา และหมึก ขึ้นอยู่กับแต่ละฤดูกาล สมัยก่อนเมื่อชาวประมงจับสัตว์น้ำได้ มักนำไปขายให้เถ้าแก่ในชุมชน ซึ่งจะถูกกดราคา เหตุผลส่วนหนึ่งมาจากชาวประมงมักติดหนี้เถ้าแก่ จากการกู้เงินไปลงทุนซื้อเครื่องมือทำประมง จึงต้องนำสัตว์น้ำมาขายแล้วหักหนี้ไปทีละน้อย

ต่อมา มีชาวประมงหลายกลุ่มจากหลายชุมชนคิดที่จะปลดแอกตัวเองจากนายทุนอย่างเถ้าแก่ หันมารวมกลุ่มเป็นแพรับซื้อสัตว์น้ำเอง มีการกำหนดราคารับซื้อสัตว์น้ำอย่างยุติธรรม มีการแบ่งผลกำไรให้กับสมาชิก โดยเน้นการทำประมงด้วยเครื่องมือที่ไม่ทำลายล้าง รวมถึง สนับสนุนการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติด้วยการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ และปลูกป่าชายเลนอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน 

อย่างไรก็ดี แม้ว่าการรวมกลุ่มจะช่วยให้ชาวประมงขายสินค้าในราคาที่เป็นธรรมมากขึ้น แต่ระบบตลาดของกลุ่มดังกล่าว ยังผูกขาดกับการขายส่งสินค้าให้กับบริษัทเอกชน ไม่เพียงเท่านั้น สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังส่งผลให้วิกฤติด้านราคาสัตว์น้ำย่ำแย่ลงอีก จนชาวประมงหลายกลุ่มต้องปิดแพรับซื้อสัตว์น้ำ และยอมขายในราคาที่ถูกลงครึ่งหนึ่ง

จากปัญหาดังกล่าว มูลนิธิคลองโต๊ะเหล็มอะคาเดมี จังหวัดสตูล จึงจัดทำ ‘โครงการพัฒนานวัตกรรม Platform สินค้าชุมชนในเครือข่ายชาวประมงพื้นบ้าน จังหวัดสตูล’ ขึ้น เพื่อคิดค้นนวัตกรรมใหม่สำหรับการยกระดับสินค้า จากที่ขายวัตถุดิบสดจากทะเลแต่เพียงอย่างเดียว สู่การแปรรูปผลิตภัณฑ์เพื่อให้สามารถจำหน่ายสินค้าในราคาที่สูงขึ้นและตรงกับความต้องการอันหลากหลายของผู้บริโภค

เบื้องต้น คณะทำงานตั้งกลุ่มเป้าหมายไว้ 50 คน จากพื้นที่อำเภอละงูและอำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล ซึ่งกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้หญิงที่ว่างงาน แรงงานนอกระบบ ผู้สูงอายุ หญิงหม้าย และคนพิการ ซึ่งบางคนถูกเลิกจ้างจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ไม่มีรายได้

สำหรับการดำเนินงานของโครงการฯ เริ่มต้นจากการรวบรวมข้อมูลสินค้าเด่น ๆ จากกลุ่มแพรับซื้อสัตว์น้ำต่าง ๆ ทั้งวัตถุดิบสดและผลิตภัณฑ์แปรรูป เพื่อนำมายกระดับและเพิ่มมูลค่าให้สินค้า รวมไปถึงการเสริมสร้างองค์ความรู้เรื่องระบบขนส่งว่าต้องทำอย่างไรจึงสามารถส่งสินค้าถึงมือผู้บริโภคได้โดยที่ผลิตภัณฑ์ไม่เน่าเสีย ผ่านความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ ชมรมชาวประมงพื้นบ้านจังหวัดสตูล ศูนย์ประสานงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นจังหวัดสตูล และร้านคนจับปลา

ยิ่งไปกว่านั้น  เนื่องจากโลกในปัจจุบันเป็นโลกแห่งเทคโนโลยี ผู้บริโภคนิยมจับจ่ายสินค้าผ่านช่องทางตลาดออนไลน์ ประกอบกับนโยบายการเว้นระยะห่างทางสังคม ทำให้การซื้อของโดยที่ไม่ต้องออกจากบ้านได้รับความนิยมมากขึ้น ผู้บริโภคยุคใหม่ต้องการสินค้าที่สามารถส่งถึงหน้าประตูบ้าน ผ่านการสั่งซื้อด้วยปลายนิ้วสัมผัส ระบบตลาดออนไลน์จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยขยายตลาดให้กลุ่มเป้าหมายได้ โดยมีหุ่นไล่กากรุ๊ปเป็นองค์กรหลักที่ช่วยเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านนี้

ทั้งนี้ หากโครงนี้ประสบความสำเร็จ จะช่วยแก้ปัญหาเรื้อรังของชาวประมงในจังหวัดสตูลได้ เพราะเป็นโครงการที่ช่วยให้กลุ่มเป้าหมายสามารถตั้งราคาสินค้าที่เป็นธรรมและเหมาะสมกับคุณภาพได้ รวมถึงยังเป็นการตัดปัญหาเรื่องการผูกขาดจากพ่อค้าคนกลาง เนื่องจากทักษะการเป็นผู้ประกอบการในศตวรรษที่ 21 จะช่วยให้กลุ่มเป้าหมายสามารถติดต่อกับผู้บริโภคได้โดยตรง ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นการพัฒนาที่ก่อให้เกิดความยั่งยืนอย่างแท้จริง

มูลนิธิคลองโต๊ะเหล็มอะคาเดมี จัดทำโครงการนี้ เพื่อคิดค้นนวัตกรรมใหม่เพื่อยกระดับสินค้า จากที่ขายวัตถุดิบสดจากทะเลสู่การการแปรรูปให้จำหน่ายสินค้าในราคาที่สูงขึ้นและตรงกับความต้องการของผู้บริโภค 

เกี่ยวกับโครงการเบื้องต้น

พัฒนานวัตกรรม Platform สินค้าชุมชนในเครือข่ายชาวประมงพื้นบ้าน จังหวัดสตูล

ชื่อหน่วยงาน

มูลนิธิคลองโต๊ะเหล็มอะคาเดมี จังหวัดสตูล

จังหวัด

สตูล

ปีโครงการ

2563

ติดต่อ

ผู้ประสานงาน: นางยุพาพร ปะดุลัง
โทร: 089-2932182

เป้าประสงค์โครงการ

  1. ได้ฐานข้อมูลสินค้าประมงพื้นบ้านของแต่ละกลุ่มตามฤดูกาล สามารถวางแผนการผลิตสินค้าได้
  2. มีสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย และมีมาตรฐาน 
  3. กลไกสามารถบริหารจัดการสินค้าชุมชนประมงพื้นบ้านได้
  4. เกิดระบบ Platform ทางการตลาดของสินค้า และช่องทางการตลาดอื่นๆ ที่หลากหลาย 

เรื่องราวนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาระบบทดลองการพัฒนาทักษะแรงงานที่ขาดแคลนทุนทรัพย์และด้อยโอกาส โดยกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา

กว่า 74 หน่วยงาน 42 จังหวัด กับ 1 เป้าหมายเพื่อสร้างชุมชนที่มีศักยภาพ ด้วยการพัฒนาทักษะอาชีพแก่แรงงานด้อยโอกาส